» » » » “Japan Alps กำแพงหิมะ” (Spring in Japan 2015)

“Japan Alps กำแพงหิมะ” (Spring in Japan 2015)

วันที่สี่ของทริป “คุณคือคนพิเศษ” ที่มีผู้ร่วมเดินทางครบทุกวัยตั้งแต่ 6 ขวบถึง 84 ปี ทุกคนต้องตื่นกันแต่เช้า รีบออกจากที่พัก (อยู่ไม่ไกลจากสถานี Tateyama) ตั้งแต่ 7 โมงเพื่อไปขึ้นรถบัสเที่ยวแรกที่สถานี Tateyama ให้ทันเวลาที่คุณพ่อจองไว้ล่วงหน้าจากเมืองไทยทางหน้าเว็บ www.alpen-route.com คุณพ่อส่งทุกคนลงที่สถานีแล้ววนไปหาที่จอดรถไกลมาก เพราะที่จอดรถเต็ม (ขนาดมาแต่เช้า) ปล่อยสมาชิกยืนรอแบบลุ้น ๆ สักพักก็เห็นคุณพ่อวิ่งหน้าตั้งมาแต่ไกลทันเวลารถออก 7.40 น. พอดี

เรานั่งรถบัส (Tateyama Highland Bus) มุ่งหน้าสู่ยอดเขา Murodo ผ่านป่าสนดึกดำบรรพ์ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี และลัดเลาะไปตามซอกกำแพงหิมะใช้เวลา 50 นาที กว่าจะถึงจุดเดินชมกำแพงหิมะซึ่งเกิดจากหิมะที่ตกซํ้า ๆ สะสมมาตั้งแต่ฤดูหนาวจนถึงฤดูใบไม้ผลิ เจ้าหน้าที่ละลายหิมะส่วนที่เป็นถนน จึงเกิดเป็นกำแพงที่มีความสูงหลายเมตร ความสูงของกำแพงในแต่ละปีไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่าปีนั้นหิมะตกปริมาณมากน้อยเพียงใด วันที่เราไป กำแพงสูง 15 เมตร อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส ลงจากรถบัสมาโดนลมหนาวปะทะวูบแรกถึงกับอึ้งไปตาม ๆ กัน แต่พอได้เดินกลางแดดแล้วก็ไม่หนาวอย่างที่คิด ทุกคนได้ใช้แว่นตากันแดดที่เตรียมมากันถ้วนหน้า เพราะแสงสีขาวของหิมะสะท้อนกับแดดแล้วแสบตาจริง ๆ

เราเดินชมกำแพงหิมะกันพักใหญ่ สมาชิกรุ่นจิ๋ววัย 6 ขวบเริ่มออกอาการทั้งหิวทั้งเมื่อย ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นถนน ไม่ยอมเดินต่ออีกเลย ทำให้น้าชายต้องรับหน้าที่แบกหลานขึ้นหลังกระเตงกันไป ส่วนสมาชิกอาวุโสสุดยังคงเดินหน้าใช้ไม้เท้าเป็นตัวช่วย ยืนพิงกำแพงพักขาเป็นระยะ คุณย่าทวดทรหดอดทนสุด ๆ

หลังจากเดินชมกำแพงหิมะ เรานั่ง Tateyama Tunnel Trolley Bus (จาก Murodo – Daikanbo) 10 นาที เป็นรถโค้ชไฟฟ้าไร้มลพิษทะลุอุโมงค์ใต้ภูเขา Tateyama ที่สูงถึง 3,015 เมตร (สูงเป็นที่สองรองจากภูเขาไฟฟูจิ) สู่ที่ราบ Daikanbo เพื่อชมทัศนียภาพอีกฟากฝั่งของภูเขา แล้วขึ้นกระเช้า Tateyama Ropeway (Daikanbo – Kurobedaira) 7 นาที ข้ามเหวลึกซึ่งสลิงของกระเช้าจากต้นทางถึงปลายทางไม่มีเสาคํ้าคั่นกลางเลย เป็นทางยาว 1,700 เมตร พอลงจากกระเช้า คุณพ่อก็พาขึ้นไปกินข้าวแกงกะหรี่ที่ร้านอาหารชั้นสอง (พนักงานอนุญาตให้คุณย่าทวดใช้ลิฟต์เป็นกรณีพิเศษ ไม่ต้องขึ้นบันได) หลังมื้อกลางวันสมาชิกรุ่นใหญ่และรุ่นเยาว์ปักหลักนั่งชมวิวรอกันอยู่ที่นี่กับคุณแม่ ปล่อยให้คุณพ่อกับสมาชิกรุ่นกลางเดินทางกันต่อ

คุณพ่อพาสมาชิกนั่งรถกระเช้าไฟฟ้ารูปขั้นบันได Kurobe Cable Car (Kurobedaira – Kurobeko) อีก 5 นาทีเพื่อลดระดับสู่สันเขื่อนคุโรเบะ ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดยักษ์ที่มีความยาวของสันเขื่อนถึง 800 เมตร แล้วเดินชมวิวเทือกเขากัน ที่จริงแล้วจากจุดนี้ยังสามารถเดินทางต่อไปลงอีกด้านหนึ่งของเขาทางเมือง Matsumoto ได้เลย แต่เราเช่ารถขับ เลยต้องกลับทางเดิมเพื่อไปเอารถ แล้วพักที่ Toyama อีกหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นถึงขับรถไปนอนที่ Matsumoto กัน คุณพ่อบอกว่าเค้ามีบริการส่งรถจาก Toyama ไป Matsumoto ด้วย แต่เราตัดสินใจลงเขาทางเดิมดีกว่า เพราะคุณย่าทวด คุณยาย กับลูกชายคนเล็กน่าจะเดินไม่ไหว

หลังจากที่สมาชิกรุ่นกลางชมวิวเขื่อนกันเรียบร้อยก็กลับมาสมทบกับกลุ่มของคุณแม่ที่ร้านอาหาร พร้อมเดินทางกลับ ขากลับเราย้อนกลับทางเดิมคือ ขึ้นกระเช้ามาต่อรถโค้ชทะลุอุโมงค์ เปลี่ยนมานั่งรสบัส แล้วต่อ Cable Car กลับสถานี Tateyama รอคิว Cable Car นานมากเพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่น (ต้นเดือนพฤษภาคม) รอไปซื้อของฝากไป กินไป สรุปไม่เหลือของฝากจากที่นี่มาถึงเมืองไทยเลย

จากสถานี เราต้องขับรถหาที่พักเพื่อเข้าเช็คอินที่โรงแรมแห่งใหม่ใกล้ที่เดิม (ที่เดิมห้องเต็ม ที่พักว่างที่ละคืน) ทางผ่านมีธงปลาคาร์ปประดับสวยงามเพราะเป็นวันเด็กของญี่ปุ่นพอดี (5 พฤษภาคม) ได้หยุดถ่ายรูปกันเล็กน้อย วันนี้เราพักที่ Hotel Mori no Kaze Tateyama มื้อเย็นเป็นบุฟเฟต์มีขาปูยักษ์ด้วย (รวมในค่าที่พัก) แถมตอนหัวค่ำยังมีเกมพื้นบ้านญี่ปุ่นและเกมบิงโกให้แขกที่เข้าพักเล่นอีก คุณแม่เล่นบิงโกชนะหนึ่งเกม (พิธีกรพูดแต่ภาษาญี่ปุ่น คุณแม่ยังอุตส่าห์เล่นชนะมาได้) เค้าให้เลือกของรางวัลเอง มีบัตรพักฟรีกับบัตรรับประทานอาหารฟรีด้วย แต่คุณแม่เลือกเป็นรถบังคับ ส่วนลูกชายคนโตได้ขนมญี่ปุ่นเป็นรูปรถไฟ Shinkansen จากคุณลุงญี่ปุ่นใจดีที่เล่นชนะแต่ยกของรางวัลให้ลูกเรา (น่ารักจัง)

ประสบการณ์ชมกำแพงหิมะฉบับครอบครัวใหญ่ และการได้สัมผัสหิมะครั้งแรกของสมาชิกบางคน ทำให้ค่ำคืนนี้ สลบกันถ้วนหน้า นอนปวดขาอย่างมีความสุข พร้อมลุยกันต่อในวันรุ่งขึ้นที่ Kids Ninja Village และปราสาท Matsumoto

รูปเยอะมากจาก 400 กว่ารูปคัดเหลืออัลบั้มละ 60 กว่ารูปตามลิงก์ด้านล่างค่ะ

Imagery: Japan Alps familygallery and Japan Alps resortgallery

Facebook Comments

Leave a Reply