» » » » บางกะเจ้า คนนึงเศร้า คนนึงสู้

บางกะเจ้า คนนึงเศร้า คนนึงสู้

ปิดเทอมสัปดาห์แรก วันจันทร์ คุณแม่หัวฟู ปั่นงานอีดิตสองงาน ส่งตอนเช้าหนึ่งงาน ส่งตอนเย็นหนึ่งงาน มีเวลาทำกับข้าวง่าย ๆ ให้สมาชิกในบ้านไม่อดตาย แต่ระหว่างวัน ปล่อยลูกชายสองคนดูแลกันเอง ลูกเล่น Bottle Flip สลับกับ Rubik’s Cube  ดูการ์ตูน และเล่นเกม Eight Note – Don’t stop sound! อันหลังนี่คุณแม่มึนเล็กน้อย เกมอะไรไม่รู้ต้องใช้เสียงตลอดเวลา ไม่งั้นตัวเล่นมันจะตกหลุม ลูกเดินมาปิดประตูห้องทำงานแล้วก็ยังได้ยินเสียงลูกอยู่เลย (แต่ก็ขำดีนะ)

ตกเย็น คุณพ่อปริ้นท์แบบฝึกหัดเลขมาให้ลูกทำ พร้อมปัญหาเชาวน์ เล่นกันสนุกสนาน แถมตื่นเต้นรีบทำแบบฝึกหัดเลขกันใหญ่ คุณแม่ยังไม่มีเวลาคิดเกมภาษาให้ลูกเลย แต่จะชดเชยให้ลูกด้วยการพาไปเที่ยวนอกบ้าน แล้วคุณแม่ก็ตัดสินใจด้วยความรวดเร็ว “พรุ่งนี้ เราไปบางกะเจ้ากัน”

เช้าวันอังคาร ตื่นมาทำมื้อเช้า ตอนหกโมง คุณพ่อพร้อมที่โต๊ะอาหารตอนหกโมงครึ่ง ลูกชายสองคนเริ่มเดินงัวเงียลงมาจากห้องนอน ทันส่งคุณพ่อไปทำงานตอนเจ็ดโมง คุณแม่เร่งลูกให้กินข้าวเช้า อาบน้ำ แต่งตัว ออกจากบ้านแปดโมง ถึงท่าเรือวัดบางนานอกตอนแปดโมงครึ่ง เจ้าถิ่นเค้าบอกให้จอดรถนอกวัดได้เลย จอดแล้วเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงท่าเรือ รอเรือข้ามฟากแป๊บเดียว เด็ก 2 บาท ผู้ใหญ่ 4 บาท ลูกนั่งเรือยังไม่ทันหายตื่นเต้น ก็ข้ามฟากมาถึงท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอกแล้ว

ขึ้นฝั่งปุ๊บ เจอที่เช่าจักรยานเลย สะดวกอะไรปานนั้น สามคนได้จักรยานมาคนละคัน บัตรประชาชนไม่ต้องใช้ เอาไปขี่ก่อน ตอนคืนค่อยจ่ายเงิน กี่บาทก็ไม่ได้ถาม ขอแผนที่ติดมือมาให้อุ่นใจหนึ่งแผ่น แล้วหันไปบอกลูก “ขี่ตามคุณแม่มาเลยครับ ชิดซ้ายด้วยนะครับลูก”

เจ้าของร้านเช่าจักรยานแนะนำให้มาทางที่รถน้อย จะได้ขี่จักรยานสะดวก ผ่านบ้านคนมาเรื่อย ๆ มีต้นไม้ข้างทางมาตลอด ไม่ร้อน ลมโชยชื่นใจ (สำหรับคุณแม่และลูกชายคนเล็ก) คุณแม่มุ่งหน้าไปสวนศรีนครเขื่อนขันธุ์ก่อนเลย เพราะสถานที่น่าแวะอื่น ๆ เค้าเปิดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งทาง ลูกทีมคนโต (ที่ขี่จักรยานรั้งท้ายอยู่ลิบ ๆ) เริ่มถามว่าอีกไกลไหม สักพักเริ่มบ่นว่าไม่ไหว ขอกลับเลยได้หรือเปล่า ในขณะที่คนเล็กยังแฮ้ปปี้ดี๊ด๊าอยู่ คุณแม่บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่คุณแม่ไม่กลับ มาแล้วต้องไปให้ถึง พักก่อนได้ ว่าแล้วก็นั่งพักกันที่หน้าพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย (ดูเวลาแล้ว ผ่านไปประมาณ 20 นาที) ไม่ได้เข้าไปในพิพิธภัณฑ์เพราะเค้าปิด (ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าปิด แต่ไม่ชอบเที่ยววันเสาร์อาทิตย์) ดูแผนที่ อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว (พยายามให้กำลังใจลูก) ขี่ต่อไปอีก 10 นาทีก็ถึงสวน ฟังลูกคนโตบ่นตลอดทาง “จะถึงแล้ว จะถึงแล้ว มาหลายครั้งแล้วนะคุณแม่” แล้วเราก็มาถึงในที่สุด

ในสวนศรีนครเขื่อนขันธุ์ต้นไม้ร่มรื่นมาก มีสะพานทดสอบกำลังขาสองสามสะพานให้ลูกได้บ่นบ้างหัวเราะบ้าง คุณแม่กับลูกชายคนเล็กพากันเดินขึ้นหอชมนก ไม่สูงมาก ขึ้นไปรับลมเย็นชื่นใจ ส่วนลูกคนโตยืนรอหน้าบูดเป็นตูดหมึกอยู่ข้างล่าง คุณแม่ลงมาเห็นน้ำตาคลอหน่อย ๆ ปรากฏว่าลูกปวดหัว แพ้อากาศ น้ำมูกไหลตลอดเวลา คุณแม่เลยชวนกลับอีกทาง จากท่าเรือเรามาทางขวา เราจะวนเป็นวงกลมเผื่อมีร้านกาแฟเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เพราะขามาผ่านมาสองสามร้านแต่ปิดทุกร้าน เราอยู่ที่สวนแค่ 20 นาที เพราะคนพี่ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ขี่จักรยานออกจากสวนมาได้ไม่นาน ก็เจอร้านขายซาลาเปาหน้าตัวการ์ตูน ร้านนี้ไม่ติดแอร์แต่ขายน้ำหลากหลาย คุณแม่เลยแวะให้ลูกได้พักดื่มน้ำตามใจ นั่งสักพัก ลูกชายคนโตบ่นปวดท้อง เข้าห้องน้ำเสร็จ ออกมาบอกคุณแม่ว่าท้องเสีย อยากกลับบ้าน คุณแม่บอก ไปครับ

ออกจากร้านซาลาเปา ขี่จักรยานผ่านตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง (ซึ่งปิดวันธรรมดา ทราบแล้วจ้า) ผ่านบ้านธูปที่บอกว่าเปิดทุกวัน (แต่วันนี้ปิดเป็นพิเศษ ฮ่าฮ่าฮ่า) ลูกชายคนโตเริ่มอารมณ์ดีมีขี่แซง แถมอวดว่าที่โรงเรียนเคยพามาบ้านธูปแล้ว จากนั้นสามคนแม่ลูกขี่ไปตามทางเล็ก ๆ มีมอเตอร์ไซค์สวนมาสองสามครั้งให้ลูกได้ตื่นเต้นเพราะทางแคบมาก จนมาถึง Bangkok Tree House ในที่สุด

คุณแม่จอดจักรยานถามพนักงานว่าที่ร้านมีแอร์มั้ยคะ ตอบว่า มีค่ะ แล้วเดินไปเรียกลูกชายคนโต ที่นี่มีแอร์ (เห็นลูกแอบยิ้ม) ลูกหายปวดท้องทันที เข้ามานั่งในห้องอาหาร สั่งน้ำอัญชัน ราดหน้า ไก่ทอด ตบท้ายด้วยไอศกรีมลิ้นจี่ อารมณ์ดีสุด ๆ คุณแม่ถามว่าจะกลับเลยมั้ย ตอบว่า ยังครับ สรุปว่าเราอยู่ที่นี่เกือบสามชั่วโมง

จาก Bangkok Tree House กลับมาที่ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอกใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีดี เร็วเว่อร์ จนลูกยิ้มหน้าบาน ได้กลับบ้านแล้ว ดีใจสุด ๆ (ค่าเช่าจักรยานคันละ 50 บาท) ขึ้นรถปุ๊บ คนโตประกาศทันทีว่าจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว “ร้อนมาก ปวดหัว น้ำมูกไหล มีร้านติดแอร์แค่ร้านเดียว” บ่นจบก็หลับไป มาตื่นเอาตอนถึงหน้าหมู่บ้านแล้ว ส่วนคนเล็กบอก “สนุกครับ ชอบตอนขี่จักรยาน ชอบที่สวนตอนขึ้นหอดูนก ที่ Bangkok Tree House ก็ชอบครับคุณแม่”

ส่วนคุณแม่ ถึงจะขำลูกคนโต แต่คิดว่าคงเป็นเพราะคุณแม่ยังทำการบ้านไม่ดีพอ ที่จริงตั้งใจจะทำเป็นเกมแรลลี่ให้ลูกช่วยกันหาคำตอบจากสถานที่ต่าง ๆ ลูกน่าจะสนุกกว่านี้ ไว้สัปดาห์หน้าลองใหม่ ที่ใหม่ (สัปดาห์นี้มีงานต้องอีดิตต่อ) แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกทีว่าคุณแม่มีพัฒนาการเรื่องชักชวนลูกคนโตทำกิจกรรมกลางแจ้งบ้างหรือเปล่า

คุณแม่ สู้ (บอกตัวเอง)

ดูรูปเพิ่มที่ลิงก์ด้านล่างนะจ๊ะ

 

IMAGERY: Bang Ka Chao familygallery and Bang Ka Chao resortgallery

 

 

Facebook Comments

Leave a Reply