» » » » White Album ความทรงจำนี้สีขาว (ฉุกละหุกคลุกหิมะ ธันวา 58)

White Album ความทรงจำนี้สีขาว (ฉุกละหุกคลุกหิมะ ธันวา 58)

วันแรกของทริปฉุกละหุกคลุกหิมะผ่านไปแบบหนาวสั่นกันทั้งบ้าน หลังจากตื่นตาตื่นใจกับความขาวและหนาวเย็นรอบกาย คุณพ่อตระเวนซื้อแผ่นแปะให้ความร้อนเพิ่มจากร้านสะดวกซื้อ เพราะทุกคนหนาวตั้งแต่ช่วงล่างลงมา เสื้อผ้าท่อนบนที่เตรียมไปเอาอยู่ ท่อนล่างต้องพึ่งพาแผ่นแปะให้ความร้อนทั้งที่ขาและใต้ฝ่าเท้า แผ่นนี้ช่วยได้มากทีเดียว
 
เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นมาก็เจอหิมะขาวหนาวแต่เช้า ตกแบบไม่ลืมหูลืมตา ขาวโพลนไปหมด เรานั่งรถแท็กซี่จากโรงแรมไปต่อ Free Shuttle Bus ของ Kiroro Ski Resort ที่หน้าสถานี Otaru Chikko Station ผ่าน Otaru Canal มีป้ายบอกอุณหภูมิที่ Otaru -6.5 องศาเซลเซียส เปิดดู Forecast บนโทรศัพท์เช็คอุณหภูมิปลายทางที่ Kiroro -13 องศาเซลเซียส คุณแม่แอบหวั่นใจเล็กน้อยกลัวลูกจะไม่สบาย ในกระเป๋าก็เตรียมยามาพร้อมทุกขนาน แต่จะให้ดีขอไม่ต้องใช้ยาที่เตรียมมาจะดีกว่า
 
นั่งรถประมาณ 50 นาที ผ่านถนนสีขาว ต้นไม้สีขาว หนาว ๆ ขาว ๆ ไปถึง Sheraton Hokkaido Kiroro Resort (เพิ่งเปลี่ยนเป็น Sheraton ต้นเดือนธันวาคม) ถึงโรงแรมตั้งแต่เก้าโมงครึ่ง ยังเข้าห้องพักไม่ได้ จัดแจงเช่าชุดที่ Mountain Centre (ตั้งอยู่ติดกับโรงแรม) ซึ่งเป็นที่เช่าชุดและอุปกรณ์เล่นสกี และเป็นจุด Ski in/Ski out คนเยอะแยะมากมาย เจอคนไทยสามสี่กลุ่ม แต่ครอบครัวเราไม่ได้มาเล่นสกี แค่มาเล่นกาละมัง (คุณพ่อกล่าว)
 
เนินเตี้ย ๆ ขาว ๆ หนาว ๆ นุ่ม ๆ สำหรับเล่น Sledge ด้านล่างก่อนขึ้น Ski Lift กลายเป็นสวรรค์น้อย ๆ ของพี่รักและน้องโรม หิมะนุ่มมากสมเป็น Powder Snow แถมคนยังน้อยมากอีกด้วย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเค้าขึ้นไปเล่นสกีด้านบนกันหมดหรือเพราะหิมะตกหนักมากตลอดเวลา แบบที่คนอื่นเค้าไม่ทน แต่เราไม่สนเล่นไม่เลิกรา (เรา ในที่นี้คือพี่รักน้องโรม ส่วนคุณพ่อคุณแม่สลับกันเข้ามาหลบหิมะข้างในอาคารหลายรอบ) ตอนแรกสองเด็กชายก็บ่นหนาวบ้าง พอได้ผ้าปิดปากปิดหน้าเข้าไป เล่นทนมาราธอนไม่หยุด เดินลาก Sledge ขึ้นเนินหลายรอบไม่มีบ่น ชุดสกีที่เช่ามาก็อุ่นมาก สบายหายห่วง แต่เข้าอาคารเมื่อไหร่ต้องรีบถอดให้ไว เพราะไม่อย่างนั้นจะร้อนเหงื่อตกกันเลย
 
ช่วงเวลายากลำบากคือมื้อกลางวัน ทุกคนมารวมตัวกันที่ Cafeteria Lumière เดินหาที่นั่งกันเกือบชั่วโมง แบบต้องยืนกดดันพวกที่นั่งแช่ไม่สนใจว่าคนอื่นก็ต้องกินเหมือนกันนะ บางคนก็มีน้ำใจเห็นคนยืนรอ รีบจัดการอาหารข้างหน้าให้เสร็จโดยไว เข้าคิวซื้ออาหารก็รอนานไม่ใช่เล่น ครอบครัวเราก็รีบกินรีบไปเหมือนกัน ช่วงบ่าย เนินเล่น Sledge เหลือแค่เราสามคนแม่ลูกเลยจริง ๆ เพราะหิมะตกหนักมาก มองไปบนเนินจะเห็นพื้นหลังสีขาว มีตัวแดง ตัวเขียว ตัวเหลือง ไหลลง เดินขึ้นบนเนินขาว วนไปวนมาแบบนี้ ที่นี่มีโรงเรียนสอนสกีสำหรับเด็กด้วย แต่ไม่ได้ให้ลูกเรียน เพราะเล่นกาละมังสนุกกว่า
 
พอบ่ายสามได้เวลาเช็คอิน คุณแม่ต้องยื่นคำขาดให้ลูกเลิกเล่น เพราะเล่นมาตั้งแต่สิบโมงเช้าแล้ว คุณแม่นี้เมื่อยขาลาก หิมะก็ตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความขาวโพลน พระอาทิตย์จะตกประมาณสี่โมงเย็น ห้องพักอยู่ชั้นล่าง มองออกไปเห็นแต่สีขาวเป็นเนินที่เราเล่น Sledge กันนั่นแหละ ที่จริงคุณแม่ตั้งใจพาลูกขึ้น Gondola ไปชมวิวบนยอดเขา แต่หิมะตกตลอดแบบนี้ คงไม่ได้เห็นวิวใด ๆ คุณพ่อจึงชวนกินบุฟเฟต์ขาปูกันให้เพลิดเพลินข้างล่างนี่เอง
 
พี่รักน้องโรมอาการไม่ดีทั้งคู่ พี่รักทั้งอาเจียนและท้องเสีย ส่วนน้องโรมบ่นปวดหัวแล้วหลับคาโต๊ะกินข้าวเลย คลุกหิมะวันแรกที่สกีรีสอร์ทจบลงอย่างทุลักทุเลเพราะพี่รักอาเจียนทั้งคืน
 
คลุกหิมะวันที่สองที่สกีรีสอร์ท หิมะยังคงตกหนักต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน เราย้ายลงมานอนที่ The Kiroro, a Tribute Portfolio Hotel Hokkaido ซึ่งอยู่ในบริเวณ Kiroro Ski Resort เหมือนกัน แต่อยู่ด้านล่าง ที่นี่มีทั้ง Onsen, Game Corner, Nature Centre และ Recreation Centre เหมาะกับครอบครัวเราที่ไม่เน้นสกี แต่เน้นกิจกรรมคลุกหิมะทั่วไป วันนี้เราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นตู้เกมในอาคารและนอนพักร่างในห้อง ช่วงบ่ายแก่ ๆ ถึงได้ออกมาเล่น Snow Raft ท่ามกลางหิมะตกกันแค่อย่างเดียว น้องโรมบ่นอยากเล่นหลาย ๆ รอบ แต่พี่รักอาการไม่ดีขึ้น ยังคงท้องเสียต่อเนื่อง น้องโรมก็พลอยอาเจียนด้วยอีกคน คุณพ่อก็ไม่น้อยหน้า ท้องเสียเหมือนกัน มีคุณแม่คนเดียวที่ท้องอืด แต่ยังกินได้เรื่อย ๆ
 
คลุกหิมะวันที่สาม เราเริ่มออกตัวกันตั้งแต่เช้าที่ Recreation Centre เล่น Snow Banana Boat ต่อด้วย Snow Bubble Ball ทุกคนอาการดีขึ้น สนุกสนานกันเต็มที่ ยกเว้นคุณแม่ที่เริ่มพะอืดพะอม ปวดหัว จะอาเจียนเพราะเล่น Snow Bubble Ball นั่นเอง จาก Recreation Centre เราเดินลุยพรมหิมะขาวนุ่มย้อนกลับมาที่ Snow Park ใช้เวลาเดิน 7 นาที เดินบ้าง ล้มตัวลงนั่งบ้าง นอนบ้าง บน Powder Snow ปาหิมะใส่กันบ้าง แกล้งกันไปตลอดทาง มีช่วงแดดออกให้คุณพ่อได้ชื่นใจเล็กน้อย หลังจากที่ได้แต่รูปอึมครึมมาหลายวัน
 
ที่ Snow Park ของเล่นเด็กเยอะมาก จ่ายค่าเข้าครั้งเดียวเล่นได้ทั้งวัน พี่รักน้องโรมชอบ Snow Tube มากมาย แต่ลากห่วงยางกลับขึ้นมาบนเนินนี่งานหนักกว่าลาก Sledge หลายเท่า เล่นกันสี่รอบต้องเปลี่ยนมาเล่น Sledge กับ Mini Shovel แทน วนเล่นกันอยู่อย่างนั้นไม่เลิก จนคุณพ่อคุณแม่ยอมแพ้ ขอนั่งรอบนเนิน ปล่อยลูกเล่นตามสบาย
 
เมื่อหิมะเริ่มตกอีกครั้ง ก็ถึงเวลามื้อกลางวันพอดี สองพี่น้องยอมหยุดเล่น กินมื้อกลางวันเสร็จ เช็คเอาต์ นั่งรถบัสไปสถานี Otaru Chikko Station เพื่อต่อรถไฟไป Sapporo กัน เป็นอันสิ้นสุดการนอนคลุกหิมะจริงจัง เพราะพอเข้าเมืองแล้วหิมะที่เห็นมันคนละอย่างกันจริง ๆ นะ จะบอกให้
 

IMAGERY: Kiroro Ski Resort familygallery and Kiroro Ski Resort resortgallery

 

Facebook Comments

Leave a Reply