» » » » วันแรกที่ Dresden (Parents Duo Trip, June 2016)

วันแรกที่ Dresden (Parents Duo Trip, June 2016)

ตื่นเต้น ๆ เมื่อดูโอทริปพ่อแม่ใกล้เข้ามาทุกที ประมาณเดือนเมษายนคุณพ่อบอกคุณแม่ว่าจะมีประชุมที่ Berlin กับ Potsdam ช่วงปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกเปิดเทอมแล้ว คุณแม่ลองชวนลูกเล่น ๆ ว่าจะหยุดเรียนสักหนึ่งสัปดาห์ตามคุณพ่อไปด้วยกันมั้ย แต่ลูกคนโตไม่ยอม (ซึ่งคุณแม่รู้อยู่แล้ว) เพราะกลัวเรียนตามเพื่อน ๆ ไม่ทัน คุณแม่เลยลองถามคุณพ่อดูว่าถ้าอย่างนั้นคุณแม่ตามไปคนเดียวได้หรือเปล่า ให้คุณยายมาอยู่เป็นเพื่อนลูก คุณพ่อตอบสั้น ๆ ว่า ถ้าลูกโอเค คุณพ่อก็โอเค

เอาเป็นว่าเราผ่านช่วงเวลาการพูดคุย อธิบาย ต่าง ๆ นานา เป็นเวลาเกือบสามเดือน (ไม่ขอลงรายละเอียด) สุดท้ายลูกให้คุณพ่อกับคุณแม่ไปดูโอทริปกันได้ ลูกไม่มีปัญหา ปัญหาอยู่ตรงการวางแผนว่าจะไปไหนอย่างไรมากกว่า เพราะทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต่างเคยไป Berlin กันมาหลายครั้งจนนึกที่เที่ยวที่ยังไม่เคยไปไม่ออก เรียกว่าไปมาหมดแล้วนั่นแหละ แถมคุณพ่อยังมีเวลาได้เที่ยวกับคุณแม่จริง ๆ แค่ 2 วัน (หัวท้าย) จาก 7 วันอีกด้วย คุณแม่ต้องหาสถานที่ที่เที่ยวคนเดียวได้อย่างปลอดภัย และหาวันไปเยี่ยมเยียนเพื่อน ๆ ที่อยู่ที่นั่นอีกด้วย

หลังจากวางแผนดิบดี จองโรงแรมเรียบร้อย กลางเดือนมิถุนายน คุณพ่อมาบอกข่าวล่าสุดว่าไม่มีประชุมที่ Berlin แล้ว คุณพ่อว่าง 3 วันแรกกับอีก 1 วันสุดท้าย ทำยังไงกันดีล่ะทีนี้ ที่ที่คุณแม่ตั้งใจจะไปคนเดียว คุณพ่อไม่ชอบ เรามานั่งดูแผนที่ประเทศเยอรมนีกันใหม่ อยากไปตรงโน้นตรงนี้ แต่ข้อจำกัดคือต้องบินไปลง Berlin เหมือนเดิม เพราะตั๋วเครื่องบินคุณแม่เป็นตั๋วแลกไมล์ เปลี่ยนเส้นทางไม่ได้ นอกจากยกเลิกแล้วจองใหม่ ซึ่งกระชั้นชิดขนาดนี้คงไม่เหลือที่นั่งว่างแล้ว ด้วยข้อจำกัดทั้งหลายทั้งปวง สุดท้ายเรามาจบกันที่ Dresden นี่เอง

เรานั่งเครื่องบินสายการบินไทยไปต่อเครื่องที่ Munich แล้วมาลง Berlin จากนั้นนั่งรถบัสจากสนามบินที่ Berlin มาลงสถานีรถไฟกลางที่ Dresden (นั่งรถบัส 3 ชั่วโมง) แล้วขึ้นแท็กซี่มาโรงแรม ทรหดกันมาก มาถึงโรงแรม อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาหามื้อกลางวันกินแถวโรงแรมตอนบ่ายสาม

เมือง Dresden มีแม่น้ำ Elbe ไหลผ่านแบ่งเมืองเป็นสองฝั่งคือฝั่งเมืองใหม่ (Neustadt) และฝั่งเมืองเก่า (Alstadt) ซึ่งฝั่งนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว คุณพ่อให้คุณแม่เลือกที่พักฝั่งนี้จะได้เดินเที่ยวง่าย ๆ เราพักที่ Swissôtel Dresden Am Schloss เรียกว่าอยู่ท่ามกลางสถานที่สำคัญทั้งนั้น เช็คราคาดูแล้วราคาพนักงานบริษัทที่คุณพ่อทำงานอยู่ถูกมาก คือครึ่งหนึ่งของราคาตามเว็บจองโรงแรมดัง ๆ ทั่วไปกันเลยทีเดียว คุณแม่จึงต้องพับไอเดียนอนวิลล่าแบบโฮมสเตย์ไปในบัดดล ห้องที่จองแอบเป็นห้องใต้หลังคานิด ๆ แต่ก็ยังคงเป็นบรรยากาศโรงแรมอยู่ดี เครื่องดื่มในตู้เย็นฟรี บริการดีเลิศ อาหารเช้าพอรับได้ ไม่หลากหลายเท่าที่ควร แต่คุณภาพโอเค

เนื่องจากวันแรกที่ไปถึงเรามีเวลาน้อยกว่าวันอื่น (จะว่าไปแล้วก็ไม่น้อยนะ เพราะพระอาทิตย์ตกสามทุ่มครึ่ง) คุณแม่จึงชวนคุณพ่อไปเดินเที่ยวฝั่ง Neustadt ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวน้อยกว่าฝั่ง Alstadt จากถนนหน้าโรงแรมเดินตรงมาทางขวาลอดประตูเมืองมาข้ามแม่น้ำ Elbe ที่สะพาน Augustus Bridge เดินผ่านย่านศูนย์การค้าและที่พักมาเรื่อย ๆ เดินกันจนเมื่อยก้น แวะนั่งกินไอศกรีมกับสตรอเบอรี่ เชอรี่ ราสเบอรี่ ที่แวะซื้อมาก่อนหน้านี้ (ราคาถูกกว่าเมืองไทยมาก) นั่งดูพ่อแม่ลูกขี่จักรยานกันไปมา เดินผ่านร้านอาหารเอเชียเยอะมาก ทั้ง ไทย จีน อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม นั่งพักก้นกันถึงสองครั้ง เดินกันมาร่วม 3 กิโลเมตร กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางที่ Kunsthofpassage (Street Art in Dresden)

อาคารบ้านเรือนบริเวณนี้เป็นตึกเตี้ย ๆ ผนังอาคารเป็นภาพวาดบ้าง เป็นงานศิลปะบ้าง บางรูปก็สวย บางรูปก็แลดูวุ่นวายเหลือเกิน ทางเดินที่เรียกว่า Kunsthofpassage จะมีร้านค้าเล็ก ๆ น่ารักอยู่หลายร้าน ส่วนใหญ่เป็นร้านเครื่องเขียน กระดาษ งานประดิษฐ์ต่าง ๆ คุณแม่เดินทอดถอนใจอยู่หลายตลบ ยังไม่กล้าซื้ออะไรแม้แต่อย่างเดียว ทั้งที่จริง ๆ แล้วอยากซื้อไปหมดทุกอย่าง เลือกไม่ถูกจริง ๆ เลยตัดใจไม่ซื้ออะไรเลย (คุณพ่อโล่งใจไปมาก)

เดินออกจากย่านนี้มาโผล่สวนสาธารณะ มองข้ามสวนไปเห็นยอดโบสถ์ Garnisonkirche Saint Martin ซึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิกอยู่ลิบ ๆ คุณแม่ชวนคุณพ่อเดินข้ามสวนไปโบสถ์กัน Google Maps พาเดินตัดกลางสวน (ผู้คนมานั่งเล่นทำกิจกรรม เล่นกีฬากันเยอะมาก) ปีนข้ามรั้วออกถนนอีกฝั่ง ลัดเลาะไปจนถึงด้านหลังโบสถ์ เราสองคนพากันเดิมอ้อมมาด้านหน้า เห็นป้ายรถราง ยืนดูตารางรถและจุดจอดรถแล้ว ไม่มีสายไหนพากลับฝั่ง Alstadt เลย และเนื่องจากเดินกันมาน่าจะไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเมตรแล้ว เราจึงเริ่มมองหาจุดจอดรถแท็กซี่กัน (Google Maps ช่วยได้เสมอ)

เดินไปยืนรอแท็กซี่ที่จุดจอดแรก ไม่มีแท็กซี่ เดินอีก 1 กิโลเมตรผ่านย่านอาคารเดี่ยวสองชั้นที่เป็นบริษัทเรียงรายสองข้างทาง ไปถึงจุดจอดรถแท็กซี่ที่สอง ไม่มีรถเหมือนเดิม แต่จุดนี้ดูพลุกพล่านกว่าจุดแรก คุณพ่อคุณแม่จึงตัดสินใจยืนรอ หลังจากนั่งพักขาที่ป้ายรถรางไปแล้วหนึ่งครั้ง รออยู่ห้านาที มีแท็กซี่มา คนขับบอกว่าหาแท็กซี่ยากเพราะเค้ารอดูบอลกัน สรุปว่านั่งแท็กซี่ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะถึงโรงแรม คุณพ่อหันมาเปรยกับคุณแม่เบา ๆ ว่าไกลขนาดนี้คงเดินไม่ไหวมั้งคุณแม่ เพราะก่อนหน้านี้คุณแม่บอกคุณพ่อว่าเดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึงโรงแรมเองแหละ คุณแม่ได้แต่ส่งยิ้มขอโทษพร้อมหัวเราะเบา ๆ เช่นกัน

กลับมาถึงโรงแรมเวลาทุ่มครึ่ง ฟ้ายังสว่าง เราเดินกันมาแล้ว 4 ชั่วโมง ตกลงกันว่านอนพักสักหน่อย เดี๋ยวสองทุ่มออกไปเดินเล่นกันอีกที เพราะเห็นคนรวมกลุ่มกันเชียร์บอลแถวลานกว้างใกล้ ๆ โรงแรม แลดูน่าสนุกดี แต่สองทุ่มครึ่งแล้วคุณพ่อยังหลับสนิท คุณแม่เลยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านอน คุณพ่อละเมอถามว่า อ้าวไม่ไปเดินเล่นแล้วเหรอ เป็นอันว่าหมดวันแรกของดูโอทริปแบบไม่ได้กินมื้อเย็น เหนื่อย เมื่อย และเพลีย สลบโดยพร้อมเพรียงกัน

Facebook Comments

Leave a Reply